NEWS

Data Center Standards

13 ม.ค. 68

มาตรฐานการออกแบบ Data Center :

การออกแบบและสร้าง Data Center ในประเทศไทยจำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสากลที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจได้ว่าศูนย์ข้อมูลมีความปลอดภัย มีเสถียรภาพ และสามารถรองรับการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง โดยมาตรฐานเหล่านี้ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและยกระดับความเป็นมืออาชีพของ Data Center อีกด้วย ต่อไปนี้คือมาตรฐานสำคัญที่ควรทราบ:


1. มาตรฐานวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.)

ในประเทศไทย วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) มีบทบาทสำคัญในการกำหนดมาตรฐานด้านวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Data Center โดย วสท. อ้างอิงมาตรฐานสากล เช่น TIA-942, BICSI 002, NFPA, และ ASHRAE เพื่อให้เหมาะสมกับข้อกำหนดในประเทศไทย ตัวอย่างมาตรฐานสำคัญจาก วสท. ได้แก่:

ข้อกำหนดห้องหรือพื้นที่ทางเข้าของเคเบิล

  • กำหนดตำแหน่งที่ตั้งของห้องเคเบิลให้อยู่ในจุดที่สะดวกต่อการเดินสายและมีการป้องกันฝุ่นและความชื้น
  • การออกแบบพื้นที่ให้รองรับการติดตั้งสายเคเบิลอย่างเป็นระเบียบ และมีระบบป้องกันการงอหรือการดึงของสาย

ข้อกำหนดงานสถาปัตยกรรมและงานวิศวกรรมโยธา

  • โครงสร้างอาคารต้องมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะรองรับน้ำหนักของอุปกรณ์ เช่น Rack และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
  • การออกแบบพื้นยก (Raised Floor) เพื่อให้สามารถเดินสายไฟและระบบปรับอากาศได้อย่างสะดวก

ข้อกำหนดงานวิศวกรรมไฟฟ้า

  • การติดตั้งระบบไฟฟ้าสำรอง เช่น UPS และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เพื่อรองรับการทำงานในกรณีไฟฟ้าขัดข้อง
  • มีการติดตั้งระบบป้องกันไฟกระชาก และการเดินสายไฟที่ปลอดภัยตามมาตรฐาน

ข้อกำหนดงานวิศวกรรมเครื่องกล

  • ระบบระบายความร้อนต้องมีประสิทธิภาพสูง เช่น การใช้ระบบ Precision Cooling
  • การควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในพื้นที่ที่มีอุปกรณ์ IT เพื่อป้องกันความเสียหายจากความร้อน

ข้อกำหนดงานระบบป้องกันอัคคีภัย

  • ติดตั้งระบบตรวจจับควัน เช่น VESDA และระบบดับเพลิงอัตโนมัติ เช่น FK-5-1-12, และ IG-100 (N2)
  • การออกแบบพื้นที่ให้มีโซนป้องกันการลุกลามของไฟ

ข้อกำหนดงานระบบความมั่นคง

  • การควบคุมการเข้าถึงด้วยระบบที่ปลอดภัย เช่น บัตร RFID หรือระบบสแกนลายนิ้วมือ
  • ติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) พร้อมระบบบันทึกข้อมูล

ข้อกำหนดงานระบบอาคารอัตโนมัติ

  • ติดตั้งระบบควบคุมแสงสว่างและการปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
  • การตรวจสอบสถานะของอุปกรณ์สำคัญผ่านระบบอัจฉริยะ

ข้อกำหนดงานโทรคมนาคม

  • การเดินสายสัญญาณแบบ Fiber Optic เพื่อรองรับความเร็วในการสื่อสารข้อมูล
  • การจัดการระบบเครือข่ายที่รองรับการสื่อสารภายในและภายนอกองค์กร

2. TIA-942: Telecommunications Infrastructure Standard for Data Centers

TIA-942 เป็นหนึ่งในมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกสำหรับการออกแบบโครงสร้างพื้นฐานของ Data Center ที่มุ่งเน้นเรื่องระบบสายสัญญาณไปจนถึงการจัดการพลังงานและการระบายความร้อน โดยจุดเด่นของ TIA-942 คือการประเมิน Tier Level ซึ่งแบ่งเป็น 4 ระดับ (Tier I-IV):

  • Rated-1: Basic Site Infrastructure ระบบพื้นฐาน ไม่มีระบบสำรอง ใช้สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
  • Rated-2: Redundant Capacity Component มีระบบสำรองบางส่วน เช่น UPS หรือ Generator
  • Rated-3: Concurrently Maintainable รองรับการบำรุงรักษาโดยไม่หยุดการทำงาน
  • Rated-4: Fault Tolerant รองรับการทำงานต่อเนื่องแม้เกิดปัญหา

ส่วนที่สำคัญใน TIA-942:

  • Cabling Infrastructure: การวางระบบสายสัญญาณที่รองรับทั้ง Fiber Optic และ Copper
  • Space Planning: การจัดโซนภายในศูนย์ข้อมูล เช่น Entrance Room, MDA, และ HDA
  • Environmental Considerations: การควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และการระบายความร้อน

 

 

3. Uptime Institute Tier Standards

Uptime Institute เป็นผู้พัฒนามาตรฐานและให้บริการรับรองความน่าเชื่อถือของ Data Center โดยเฉพาะในด้านการใช้พลังงานและการทำความเย็น ไปจนถึงการปฎิบัติงานของศูนย์ข้อมูลให้มีความพร้อมใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ  อีกทั้งยังเป็นสถาบันที่มีใบอนุญาต ตรวจประเมินและรับรองงานออกแบบ งานก่อสร้างและแนวทางปฎิบัติบริหารจัดการ Data Center

Uptime Institute ได้กำหนดมาตรฐาน Tier Standards สำหรับประเมินความพร้อมใช้งานและความน่าเชื่อถือของ Data Center โดยแบ่งระดับเป็น Tier I-IV คล้ายกับ TIA-942 แต่เน้นการวัดความเสถียรและการรองรับการทำงานในกรณีฉุกเฉิน

  • Tier I: ความพร้อมใช้งาน 99.671% (Downtime 28.8 ชั่วโมงต่อปี) รองรับ Basic Capacity
  • Tier II: ความพร้อมใช้งาน 99.749% (Downtime 22.7 ชั่วโมงต่อปี) รองรับ Redundant Components 
  • Tier III: ความพร้อมใช้งาน 99.982% (Downtime 1.6 ชั่วโมงต่อปี) รองรับ Concurrent Maintainability
  • Tier IV: ความพร้อมใช้งาน 99.995% (Downtime 25 นาทีต่อปี) รองรับ Fault Tolerance

4. BICSI: Building Industry Consulting Service International

ANSI/BICSI 002-2024 เป็นมาตรฐานสำคัญที่ช่วยให้การออกแบบ Data Center มีความครบถ้วน ครอบคลุมทุกรูปแบบการใช้งาน และสามารถรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยเฉพาะในด้านประสิทธิภาพพลังงาน ความปลอดภัย และการจัดการที่มีประสิทธิภาพ
มาตรฐานนี้ครอบคลุมระบบและองค์ประกอบหลักใน Data Center เช่น:

  • วิธีการออกแบบ (Design Methodology): รวมถึงการเลือกสถานที่และการวางแผนพื้นที่
  • ระบบไฟฟ้า (Electrical Systems): ตั้งแต่ Utility Power ไปจนถึง Standby และ Backup Power
  • การระบายความร้อนและการจัดการอากาศ (Cooling & Ventilation): เช่น Hot/Cold Aisles และ Immersion Cooling
  • โครงสร้างและสถาปัตยกรรมอาคาร (Building Structural & Architectural Requirements): รวมถึงความปลอดภัยจากไฟไหม้
  • โครงสร้างพื้นฐานสายสัญญาณ (Telecommunications Infrastructure): รองรับ Cabling Media ทั้ง Fiber Optic และ Copper
  • การบริหารจัดการ (DCIM): ระบบจัดการอัจฉริยะที่รองรับ IP และระบบอัตโนมัติ

5.TuViT Standards

หนึ่งในมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับจาก TuViT คือ Trusted Site Infrastructure (TSI) ซึ่งเป็นกรอบการประเมินและรับรองที่ใช้ตรวจสอบและรับรอง Data Center ในหลายมิติ ได้แก่:

  • Physical Security (ความปลอดภัยทางกายภาพ)
    • การออกแบบที่สามารถป้องกันภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว และไฟไหม้
    • ระบบควบคุมการเข้าถึง (Access Control) เช่น การใช้ระบบสแกนไบโอเมตริกซ์หรือการ์ด
  • Power Supply (ระบบพลังงาน)
  • การมีระบบไฟฟ้าสำรอง เช่น UPS และ Generator ที่สามารถรองรับการใช้งานต่อเนื่อง
  • การออกแบบระบบไฟฟ้าที่ป้องกันไฟกระชากและไฟดับ
  • ระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ เช่น Precision Cooling หรือ Immersion Cooling
  • การจัดการความชื้นเพื่อป้องกันความเสียหายต่ออุปกรณ์ IT
  • การติดตั้งระบบตรวจจับและดับเพลิง
  • การใช้วัสดุที่ทนไฟและการออกแบบพื้นที่ที่ช่วยลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายของไฟ
  • การจัดการและบำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ
  • การมีแผนฉุกเฉิน (Contingency Plan) ในกรณีที่เกิดปัญหา
  • ความเสถียรของการเชื่อมต่อเครือข่าย เช่น การสำรองเส้นทางการเชื่อมต่อ (Redundant Network Links)
  • Cooling and Climate Control (การจัดการความร้อน)
  • Fire Protection (การป้องกันอัคคีภัย)
  • Operational Processes (กระบวนการปฏิบัติการ)
  • Network Connectivity (การเชื่อมต่อเครือข่าย)

 


6. ASHRAE Standards

ASHRAE (American Society of Heating, Refrigerating, and Air-Conditioning Engineers) มีบทบาทสำคัญในการกำหนดแนวทางเกี่ยวกับการจัดการพลังงานและการควบคุมสภาพแวดล้อมใน Data Center เช่น:

  • ASHRAE 90.4: มาตรฐานการจัดการพลังงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
  • ASHRAE TC 9.9: แนวทางการจัดการความร้อนและการระบายความร้อน

7. มาตรฐานอื่น ๆ ที่ควรพิจารณา

  • NFPA : มาตรฐานและแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยจากอัคคีภัย
  • ISO/IEC 27001: การจัดการความปลอดภัยของข้อมูล
  • LEED Certification: การออกแบบศูนย์ข้อมูลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • PUE (Power Usage Effectiveness): ตัวชี้วัดประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
  • EN 50600: มาตรฐานยุโรปสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล

Data Center เป็นระบบที่ต้องการการทำงานร่วมกันของหลายระบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบปรับปรุงคุณภาพไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ ระบบความปลอดภัย และอื่น ๆ เพื่อให้ทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด การออกแบบที่ดีโดยผู้เชี่ยวชาญที่ยึดตามมาตรฐานระดับสากลคือหัวใจสำคัญของความสำเร็จ ✨ ปรึกษา CSPM เพื่อให้เราช่วยคุณสร้าง Data Center ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการเป็นไปตามมาตรฐานสากล